Ljbliana Slovenia

Ljbliana Slovenia

12-14. 12.2014

12.12.2014

อาทิตย์นี้คิดหนักว่าจะเที่ยวที่ไหนดี คือแบบต้องหาไรทำทุกวันหยุด นี่เป็นทริปสุดท้ายก่อน Christmas break อาทิตย์หน้า ตอนแรกคิดว่าจะไปเวียนนา แต่สุดท้ายแยกกับเพื่อนเป็นสองกลุ่ม เราไปLjublianaเป็นเมืองหลวงของ Slovenia อีกกลุ่มไปเวียนนา เราไป3วัน2คืน ขอบอกไว้ก่อนเลยว่าทริปนี้เด็ดที่สุดตั้งแต่เคยเที่ยวมา ติดตามกันต่อไป...

นั่งแพลนเที่ยวกับเพื่อนไต้หวันอีกคนถึงตีสอง จองทั้งhostelและรถไฟเสร็จสรรพ มีเพื่อนมองโกเลียอีก สรุปมีสามคน รถไฟออกวันศุกร์ประมาณเที่ยง เรามีคลาสเรียนเยอรมันตอนเช้า เลยจองรอบนี้ ไปถึง Houpbahnhof เฉียดฉิวมากก ที่surprise มากคือเราเจอเพื่อนexchange อีกคน เป็นคนแอฟริกาใต้ที่สถานี ก็แบบไม่คิดว่าจะไปที่เดียวกัน สุดท้ายเค้าเที่ยวกะเราทั้งทริปเลยย รถไฟใช้เวลา 6 ชม เราก็นอนเอาแรงก่อน ตื่นมาอีกทีมองออกไปเจอหิมะตก แบบเป็นครั้งแรกที่เจอหิมะ ตอนนั้นยังอยุ่ในออสเตรีย ตื่นเต้นกันใหญ่ ถ่ายรูปอย่างบ้าคลั่ง555555 แต่พอถึง Ljubliana จริงๆดันไม่มีหิมะ ถึงตอน 6โมงเย็น ฟ้ามืดเร็วมากก Tokelo เค้านอนที่บ้านhost ที่มารับที่สถานี เราก็ถามเค้าว่าทางไปhostel ไปยังไง เค้าก็แบบพาไปถึงที่เลย แล้วสุดท้ายพวกเราก็มีไกด์จำเป็นคือhost 5555

 

เค้าพาเที่ยวคืนแรก พาไปกินอาหารของ Slovenia ไป castle บนเขา ต้องปีนขึ้นไป เหนื่อยมากก แต่เนื่องจากกินไปเยอะอยุ่ เลยหักล้างกันหมดพอดี คุ้มที่ปีนขึ้นไปนะ เพราะข้างบนจะเห็นเมืองทั้งเมืองภายใต้แสงดาว เพ้อเจ้อมากก5555 คือทุกคนอยุ่เป็นคู่ๆ เราก็อยุ่กับเพื่อนแทนอ่ะนะ*-* ข้างบนมีร้านอาหาร แล้วก็เหมือนHogwardใน harry potter เลย เค้าแต่งไฟสวยมาก   จากนั้นก็ไปเดินแถว Dragon bridge ซึ่งเป็นเหมือน Landmark ของที่นี่ คือความจริงมันก็แค่สะพานที่มีหัวเป็นมังกรอะนะ แต่เห็นทุกคนต้องไปถ่ายรูปตรงนี้ก็เลยไปด้วย พอไปถึง กรรมมม แบตหมดจ้าาา ดูได้อย่างเดียวว -*- ก่อนกลับhostel ก็แวะไปเดินเล่นใน christmas market อยู่กลางเมือง สวยมากกกกกก คือเป็น christmas market ที่สวยที่สุดเท่าที่เคยไปมา แบบตกแต่งไม่เหมือนที่อื่น ธีมเหมือนอวกาศ แล้วเค้าเลี้ยง hot wine เราทุกคนเลย เดินในcenter ของ Lujbliana นี่บรรยากาศดีมาก เป็น first impressionของเรา ก่อนกลับ(จริงๆแล้ว)ก็ไป supermarket ซื้อของกินข งพรุ่งนี้เช้าตุนไว้ สรุปคืนแรกเรากลับอย่างดึกเลย แต่สนุกมาก เฟมือนเที่ยวรอบเมืองภายในคืนเดียวว

บรรยากาศตอนกลางคืนใน Christmas market

ใน castle

13.12.2014

ตอนเช้าตื่นสายยย เง้ออออ ตื่นมาก็ต้องรีบไปเช็ครอบรถบัส เพราะวันนี้เราก็ออกไปเที่ยวที่ Bled lake เป็นทะเลสาบที่มีปราสาทอยุ่ตรงกลางเหมือนเกาะเล็กๆ ใครมา Slowenia ก็ต้องมาที่นี่ มื้อเช้ากินของที่ซื้อมานิดหน่อย แล้วก็ไปที่ MCDONALD ซึ่งถูกกว่าในลินซ์มาก วันนี้ host ก็มาเจอเราอีกเพราะเพื่อนชาวแอฟริกาใต้จะไปกะเรา เค้าบอกถ้ากลับมาไวให้บอกเพราะจะได้ปาร์ตี้กันคืนนี้ เราไปบัสถึง bled ตอนเกือบ11โมง คือลงจากบัสแล้วเดินต่อนิดเดียวก็ถึงเลย คือมันใหญ่มากกกก แต่แสงไม่ค่อยสวย ถ่ายออกมาแล้วมืดด เราก็เดินเล่นรอบๆ lake มีเป็ดกะหงส์เยอะมาก คือถ้าเดินครบรอบเลยมันไกลมาก เราเลยเดินกันครึ่งlake แล้วก็เดินกลับไปขึ้นปราสาท เพราะคิดว่ามันอยุ่สูง น่าจะมองเห็นวิวทั้งหมด ปรากฏว่าขึ้นไปถึง ค่าเข้าคนละ 7 ยูโร แพงไม่คุ้ม เลยเดินลงแล้วไปหาเข้ากลางวันกินกัน ที่นี่มีชื่อเสียงเรื่อง cream cake เราไปกินที่ร้านใกล้ๆที่รอบัส สั่งเบอร์เกอร์ได้เยอะมากกก แบบอิ่มโคตรรร แล้วก็สั่งเค้ก อร่อยเหาะะ แบบมันนุ่มๆเด้งๆ ไม่หวานเว่อ แต่เสียดายต้องรีบกินเพราะรถบัสจะมาแล้ว 

แสงไม่ค่อยสวยเลย มองไม่เห็นปราสาทกลางlake

cream cake ที่ว่าอร่อยมากกกก

 

หลังจากกลับมาจาก Bled ก็เดินเล่นใน ljublianaซักพักจนมืด ก็ติดต่อhost ได้ เรานั่งรถแท็กซี่ไปบ้านเค้าเพื่อไป pre drinkingก่อนไปปาร์ตี้กลางคืน เค้าซื้อไวน์ ขนม ว้อดก้า มาเลี้ยง ทำhot wineเอง อร่อยมากก กินไป4แก้ว กะว้อดก้าผสมสไปรส์อีก3แก้ว แต่ไม่เมานะ นั่งคุยกันเรื่องเพื่อน งานgossipต้องมาา เรื่องผุ้ชาย(อันนี้ของแน่) ตลกดี ไปผับตอนเกือบเที่ยงคืน ก็โอเคนะแต่เราเหนื่อยและง่วงไปหน่อย เพราะเดินทั้งวัน แต่ก็ไม่อยากกลับเร็ว กลัวไม่คุ้มที่เสียตังมาแล้ว55555 ก็เลยกลับตีสามมม ง่วงได้อีกกก กลับมาหลับเป็นตายเลยย

14.12.2104

วันสุดท้ายที่นี่แล้ว เพื่อนแอฟริกาใต้ต้องกลับไปก่อนเพราะไม่ได้จองรถไฟกลับพร้อมกัน ส่วนเราสามคนจอง blablacar เป็นเว็บที่คนขับรถที่ขับคนเดียวและขับประจำทางแต่รถใหญ่จะมาโพสหาคนกลับด้วย จ่ายเงินให้เค้าถูกกว่าใช้รถไฟมากก แต่ต้องแน่ใจว่าเชื่อถือได้จริงๆ ถ้าเป็นผุ้หญิงกลับคนเดียวไม่แนะนำใช้บริการนี้นะ เสี่ยงเกินน วันนี้เราตื่นกันเร็ว ไปเดิน antique market ในเมือง เป็นตลาดขายของเก่าที่เห็นได้ปกติในยุโรป จะมีคนวางแผงขายของตามทางเป็นโซนเลย เราไม่ได้ซื้ออะไรเพราะส่วนใหญ่แพงมาก ไปร้าน Romeo cafe เป็นร้านดังเรื่องขนม สั่งเครปครีมชีสและรัม อร่อยมากก อย่างฟินนน เดินถ่ายรูปจนพอใจและได้เวลานัดของ blablacar ประมาณบ่าย2 เจอหน้า mcdonald เก็บของทุกอย่างแล้วก็รีบไปรอ แต่คนขับดันสายซะเองง โชคดีที่เค้าขับดีและดู stable เลยรอดตัวไปปป เราไปลงถึง vienna แล้วต้องต่อรถไฟกลับ Linz เห็นว่ามีเวลามาก เลยอยากเที่ยวเวียนนาซะหน่อย

 

antique market ตามทางเดินในเมือง

ในเเมือง Ljubliana

crape อร่อยอีกแล้ววว

ความจริงเคยไปแล้วครั้งนึงแต่แค่วันเดียว ซึ่งแน่นอนว่าไม่พอ แล้วช่วงนี้มี christmas market ที่ใครๆที่มาเที่ยวยุโรปก็ต้องมา ก็เลยขอโฉบดูหน่อย เราก็ยืนหารอบรถไฟอยุ่ อยุ่ดีๆก็มีลุงคนนึงเข้ามาถามว่าจะไปไหน แล้วก็มาช่วยดูเวลา เราก็บอกจะกลับลินซ์แต่มีเวลาเลยอยากเที่ยวเวียนนา ลุงก็บอกว่าเค้าพอมีเวลา เดี๋ยวไปด้วยกันเลยก็ได้ คือจริงๆถ้าเราอยุ่คนเดียวนี่เดินหนีแน่ๆ แต่เห็นมีเพื่อนอยุ่ด้วยก็เลยตามลุงแกไป เค้าอายุ60ปี ดูท่าทางจะรวยมาก บอกเคยทำงาน UN ได้เงินเดือนดี ลุงแกเกษีณก่อนมานานแล้ว แต่อยุ่คนเดียว แบบหย่าไป 15ปีแล้ว แล้วก็สอนนุ่นนี่เรา ถามว่ามาจากไหนบ้าง ก็ตอบไปบลาๆๆ เราเชื่อตรงที่เค้าพูดอังกฤษได้คล่องมาก ซึ่งหายากมากที่คนแก่ที่นี่จะพูดได้ ส่วนใหญ่พูดแต่เยอรมัน แล้วคำศัพท์ที่ลุงพูดก็เป็นศัพท์วิชาการหลายๆครั้ง เราก็เลยพอจะเชื่อได้บ้าง เค้าพาเราไปที่ Mariateresa plazt ไปกิน punsch คล้ายๆแอลกอฮอลใส่น้ำผลไม้ ใส่แก้วรูปรองเท้าบูธ ซึ่งเอากลับได้ เราอยากได้มาก ลุงแกจ่ายให้หมดเลย พอจะจ่ายคืนก็บอกไม่ต้อง ให้เป้น christmas gift คือแบบเพิ่งรุ้จักกันแปปเดียว งงกันไปปป แล้วเราอยากได้แก้ว ลุงก็ไปหาถุงหาที่ห่อมาห่อให้ บอกว่าดูแลดีๆเด๋วแตก เท่านั้นไม่พอ ถามว่าหิวมั้ย พาไปกินอาหารในภัตตาคารที่ดูหรูมากๆ แบบคนดังมากินเพียบไรงี้ เราก็สั่งที่ถูกสุดเพราะคิดว่าจะจ่ายเอง สุดท้ายลุงแกจ่ายให้ทุกคนเลย คือแบบดีงามม สรุปคือเที่ยวเวียนนาฟรีๆแบบงงๆ เป็นอะไรที่เซอร์ไพรส์มากก เค้าใจดีเว่อออ ตอนจะกลับก็หิ้วกระเป๋ามาส่งขึ้นรถไฟแล้วรอจนรถไฟออก เหมือนเป็นพ่อมาส่งลูกเลยง่ะ เหมือนซานตาครอสมาให้ของขวัญ เป็นทริปที่สุดๆเลย ได้เจอhostพาเที่ยวฟรีแล้วยังเจอลุงใจดีที่เวียนนาอีก พอกลับมาคือเพื่อนอิจฉาเป็นแถววว555555 คิดว่าลุงแกคงเหงา อารมณ์แบบมีเงินแต่ใช้คนเดียวเลยอยากแบ่งปันให้เราบ้าง อิอิ แต่ก็ดีและ

ถึงเวียนนาแล้วววว



hot wine ในแก้วรองเท้าบูธ



Christmas market @vienna



นี่คือร้านที่ลุงแกพาไปเลี้ยง อย่างหรูอ่ะะ



อาหารอร่อยมากก แต่แพงไปหน่อยย

สุดท้ายนี้แม้หมดเงินไปเยอะแต่ก็คุ้มกับประสบการณ์ครั้งแรกในหลายๆเรื่อง จบทริปนี้เจอกันทริปหน้าช่วงคริสมาสเบรกแบบจัดเต็มม

เริ่มต้นการเดินทาง สู่เมืองลินซ์...ออสเตรีย

การเดินทางเริ่มต้นขึ้น ณ บัดนี้....
5.09.2014
คือความจริงอยากจะเขียนมาตั้งนานละ แต่ไม่ค่อยมีเวลา อยู่มาซัก 3 เดือนแล้ว เพิ่งจะเริ่มม อยู่ที่นี่ไม่ใช่ว่ายุ่งเพราะเรียนหนักนะ คือแบบเที่ยวกับปาร์ตี้หนักซะมากกว่า555555
เข้าเรื่องการเลยดีกว่า คือตัวเรานี้ก็เป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยนหนึ่งปีที่ประเทศออสเตรีย ที่เมืองลินซ์ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสามของออสเตรียและเป็นเมืองหลวงของ Upper Austria ที่ได้เป็นก็เพราะโครงการเราเป็นนานาชาติและมีสัญญากับมหาลัยแห่งนี้(เราไปเรียนที่ JKU) เราใช้เกรดและคะแนนโทเฟลยื่น สุดท้ายก็ได้มาเรียนปีสามที่นี่ โอนเกรดกลับได้หมด และเรียนต่อที่ไทยอีกปีนึงก็จบบ

เราเรียนเศรษฐศาสตร์ภาคภาษาอังกฤษ แต่ไม่ไได้คิดว่าอังกฤษของตัวเองจะดีมากขนาดนั้น การมาแลกเปลี่ยนครั้งนี้ก็เป็นธรรมดาที่จะตื่นเต้น ตามประสาคนไม่เคยห่างบ้านไปไกลถึงปีนึง แถมต้องดูแลตัวเองทั้งหมด ไม่มีใครมาบังคับ ที่สำคัญคือคิดในใจว่าตูจะพูดกับเพื่อนฝรั่งรู้เรื่องป่าวฟะ55555 คือจินตนาการตัวเองพูดอังกฤษตลอดเวลาไม่ออกเลย อยู่ที่ไทยก็พูดเฉพาะเวลาพรีเซ้นงานไรงี้ แต่เอาวะ มาถึงขั้นนี้ เอาไงเอากันนน



รอเครื่องที่เวียนนา

กว่าจะได้เข้าเรื่อง เกริ่นมาซะยาววว ขอเล่าอีกนิดว่าเรามาแลกเปลี่ยนกับเพื่อนสนืทที่คณะอีกคน ก็เลยอุ่นใจขึ้นหน่อย จำได้ว่าวันแรกที่ออกจากบ้านมาสุวรรณภูมิที่แบบชิวมาก จัดกระเป๋าก่อนเดินทางซักอาทิตย์นึง แบบว่างเกินเลยขี้เกียจ พวกเพื่อนที่ม่ได้ไปแลกเปลี่ยนก็เปิดเทอมกันหมดแล้ว เราก็ไม่ต้องไปมอ รอไปเลยทีเดียว ป๊าขับรถมาส่งที่สนามบิน เครื่องออกเกือบเที่ยงคืน แต่คนเยอะเว่ออออ พอหาเกตเจอก็นั่งรอเพื่อน พอได้เวลาเข้าเกตเท่านั้นแหละ น้ำตาแตกเลยทีเดียว แบบไม่คิดจะร้องเลยนะ แต่มันอดไม่ได้จริงๆ ยิ่งเห็นเพื่อนร้องก็อยากจะร้องตาม ครอบครัวมาส่งกันพร้อมหน้า จำได้ว่าตอนขึ้นบันไดเลื่อนเพื่อไปที่รอตรงผู้โดยสารขาออกนี่คือครั้งสุดท้ายที่เห็นหน้าทุกคน ตอนนั้นคือไม่อยากไปแล้ว คิดว่าชีวิตต่อจากนี้อีกปีต้องเหงาแน่ๆ (ดราม่าแปปป) แต่พอเข้ามาที่นั่งรอเท่านั้นแหละ อยู่ดีๆก็หายเศร้าเฉย แบบอยากจะไปแล้วว เค้าอยากขึ้นเครื่องแว้ววว (เปลี่ยนโหมดอย่างรุนแรง) พอได้ขึ้นเครื่อง Austrian airline ก็หลับทันที (อะไรวะเนี่ยย) เครื่องเค้าดีนะ แต่ที่นั่งแอบแคบไปนิด เรานั่ง economy ด้วยมั้ง ตอนจะลงงี้ปกติเราจะกลัวมาก คือแบบขี้หูจะออกมาเต้นระบำอยู่แล้วว แต่กัปตันจอดนุ่มมากก


นั่งเครื่องนี้ไปลินซ์

เดินทางถึงกรุงเวียนนา เมืองหลวงของออสเตรีย ประมาณ 10 โมงเช้าของอีกวัน ใช้เวลาประมาณ 10 ชม แต่ต้องรอเปลี่ยนเครื่องไปลินซ์(Linz) อีกเจ็ดชม ซึ่งแบบจากเวียนนาไปลินซ์แค่ครึ่งชม -*- กำ เราก็ใช้เวลาเป็นประโยชน์มาก นั่งเล่นเน็ตฟรีที่สนามบินตลอด 7 ชม ที่รอ (productive ตั้งแต่วันแรกที่ไปเลยทีเดียววว) รอจนรากงอกแล้ววว ของในสนามบินก็แพงตั้งแต่น้ำปล่า ไม่ต้องคิดจะซื้ออย่างอื่นเลย แบบน้ำขวดละ 1.99 euro ประมาณ 80 กว่าบาท ขวดเท่าน้ำทิพขวดเล็กบ้านเราเลย แต่ก็ต้องซื้อ คือหิวน้ำมากก สุดท้ายได้เวลาขึ้นเครื่องไปลินซ์ เครื่องเล็กได้อีกกกกก จุได้ 30คน หวาดเสียวมากก แต่กัปตันขับดีอีกแล้ว คือเป็นอะไรที่ประทับใจ(แค่เครื่องบินชั้นยังชอบเลยคิดดู) พอเครื่องลงจอดสนามบิน Blue Danube ที่ลินซ์ ก็เจอ mentor คือต้องบอกกว่าว่าเค้าคือคนที่จะช่วยดูแลเราตลอดเวลาที่อยู่นี่ แบบมีไรไม่เข้าใจ มีปัญหาก็ปรึกษาไรงี้ แต่ mentor บางคนก็มารับแล้วก็หายไปเลยก็มี แต่เมนเทอร์เราใจดีมาก เป็นคนรัสเซีย ชื่อ Artem คือเค้ามาเรียนโทที่มอเดียวกับเรา แต่พูดเยอรมันเก่งมากกก (หล่อนิดๆด้วยนะ555 เป็น first impressionเล็กๆน้อยๆ) เค้ามาพร้อมเมนเทอร์เพื่อนเราอีกคน แต่คนนี้หลังจากมาส่งเพื่อนแล้วหายไปเลยย เค้าก็พานั่งแท็กซี่มาส่งถึงหน้าหอ ช่วยลากกระเป๋า จัดการเรื่องที่พักให้เสร็จสับ พาขึ้นไปเก็บของที่ห้อง เรานอนห้องเดี่ยวแยกกับเพื่อน ห้องติดกัน แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่าเราเปิดห้องไม่ได้T^T ปรากฏว่ากุญแจเสียยยย ฟ้ากกกก คืนแรกเลยต้องนอนกับเพื่อนไปก่อน โชคดีที่มันมี2เตียง แต่หลังจากเราออกไปแล้วก็มีแม่บ้านมาเอาอีกเตียงออกไป0-o


ห้องเราเองง

หลังจากเก็บของทุกอย่างก็กะจะออกไปเดินสำรวจซะหน่อย ก็อยากหาเพื่อนคนอื่นไปด้วย แต่คือเพิ่งมาถึงยังไม่รุ้จักใคร พอดีมีคนที่มาถึงก่อนโพสในกรุ๊ปเด็กเอ้กเช้นปีนี้ว่ามีใครอยากไปดู festival ประจำปีมั้ย คือมันเป็นงานกลางคืนประจำปีแบบมีโชว์ จุดพลุ ออเคสตราเล่นบนเรือริมแม่น้ำดานูบไรงี้ เราก็โชคดีได้อีก มาถึงคืนนั้นพอดี เพื่อนเราเลยบอกว่าจะไปด้วย เค้าให้มาเคาะห้องเค้า แต่คือเค้าเป็นผู้ชายย เรากะเพื่อนเป็นผู้หญิง แต่ใครสน ณ จุดนี้5555 ก็เลยรวบรวมความกล้าไปเคาะห้องเค้า ปรากฏไม่มีใครเปิดประตู กำเวรรร ก็แบบถอดใจละ สุดท้ายเดินลงมาที่receptionข้างล่างหอ เจอเค้านั่งอยู่เฉยยย เรากะเพื่อนก็แบบเข้าไปทักเลย แล้วก็รุ้จักกัน เค้าเป็นคนเบรารุส วันแรกก็ได้เจอเพื่อนดีๆเลย เราก็ยังคุยกะเค้าจนถึงปัจจุบัน เค้ารอเพื่อนอีก2 คน เราเลยได้รุ้จักไปด้วย มาจากอิสโทเนียคนนึง อีกคนเป็นคนเสปน ตอนนี้เป็นเหมือนพี่สาวเราไปแล้ว ทุกคนคือดีมากก เค้าพาเราเดินจากหอไปcity center ในเมือง จตุรัสกลางเมืองเรียกว่า Hauptplatz เป็นจตุรัสที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปกลาง คือจะบอกว่ามันโคตรรรไกลลล เพิ่งมารุ้ทีหลังว่าไม่มีใครเค้าเดินกัน เค้านั่งรถแทรม บอกใครว่าเคยเดินมานี่คือทุกคนดูตกใจมากก แบบยูเดินได้ไงประมาณนี้ ตอนนั้นมืดแล้ว เราก็มาจองที่นั่งดูงานกันริมน้ำดานูบ โรแมนติกเว่อ(ถ้าไม่มีคนสูบบุหรี่ข้างๆ -.,-) คนมางานเยอะมากกกกกก เกือบหลงกันตั้งแต่วันแรก ดูบรรยากาศครึกครื้นดี มีฟามสุขขข พลุก็สวยย แบบบรรยายไม่ถูก ไม่มาเองไม่รุ้ เราก็คิดในใจ การเริ่มต้นชีวิตที่นี่เริ่มขึ้นแล้วสินะ กว่าจะกลับถึงหอเกือบตีหนึ่ง เหนื่อยมาก สุดมาก นี่ขนาดวันแรกยังเอ็กซตรีมขนาดนี้ ไม่อยากจะคิดถึงวันต่อๆไปเลย แต่ยอมรับว่าเราชอบที่นี่แล้วจริงๆ....

ป้ายหน้ามหาลัยย

สวยมากกกกก

ยิ่งใหญ่อลังการ

จบการเดินทางวันแรก
6.09.2014 ถึงออสเตรียแล้วค้าบบบ