Translate

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ paris แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ paris แสดงบทความทั้งหมด

วันพฤหัสบดีที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2557

Paris-Lyon



22.12.2014

ตื่นตั้งแต่ตีห้าครึ่งเพื่อมาขึ้นรถไฟไปปารีส รถไฟออก 6.30 เราไปรอก่อนเกือบครึ่งชม ปรากฎว่ารถไฟมันไม่ออกจากนี่ไปปารีส ต้องไปขึ้นที่ Brussel คือเซ็งมากกก เพราะตอนซื้อตั๋วเลือกว่าออกจาก brugge แต่ในตั๋วเขียนว่า brussel เอะใจอยุ่แล้วนะ แต่มันดันเขียนข้างล่างว่าใช้จากไหนก็ได้ภายในวันนี้ เราเลยคิดว่าออกจากนี่ได้ สุดท้ายเลยตกรถไฟรอบนั้นไป หารอบเร็วสุดไป Brussel แล้วไปปารีสต่อ โชคดีมากที่มีรอบไปปารีสหลายรอบวันนี้ เลยได้ออกตอน 8 โมงกว่า ก็ยังดี ไปถึงประมาณ 10 โมงที่สถานี Gare du Nord เป็นสถานีหลักของปารีส คนดำเยอะมากก คือไม่คิดว่าจะเยอะขนาดนี้ นึกว่าอยุ่ Africa เพื่อนหลายคนที่อยุ่ปารีสเตือนไว้แล้วว่าให้ระวังกระเป๋าด้วยตลอด ไม่งั้นจะโดนขโมยหรือโดนจี้ได้ เราต้องเอากระเป๋ามาสะพายข้างหน้า เอาของไปเก็บที่โรงแรม ibis budget(อีกแล้ว) Paris Porte de la chapelle อยุ่ขอบๆของปารีสเลย ถูกมากก ใช้metroจากสถานีรถไฟมานี่แล้วเดินต่อเช้าโรงแรม แต่กว่าจะไปถึงได้นี่ลงผิดลงถูกนานมาก ใช้ metro จนคล่องเลยอ่ะ555 ทางไปโรงแรมค่อนข้างน่ากลัวเพราะมีคนดำเยอะและเปลี่ยวเพราะอยุ่เกือบนอกเมือง ยังดีมี metro ไป ไม่งั้นไม่กล้าาา จ่ายค่า metroเที่ยวเดียวไป 1.7 euro ถึงโรงแรม check in ได้เที่ยง ต้องไปนั่งรออีก เลยกินข้าวกลางวันรอเลย หลังจากเก็บของเสร็จเราก็จะไปหอไอเฟลกัน เราลงไปซื้อตั๋วแบบ 1 day ใช้ได้ถึงเที่ยงคืน นั่งกี่รอบก็ได้ภายในวันนึง ราคา 6.8 euro ระหว่างที่จ่ายตังรอเอาตั๋วมีคนดำคนนึงมายืนขอเงินข้างๆ เราแบบตกใจมากก กลัวมันมีมีดมาจี้ เพราะเคยได้ยินมาบ่อยละ ก็เลยรีบเดินออกมาเลยโดยที่ไม่ได้เอาตั๋ว มันก็เอาเงินเราจากเครื่องไปเลย เสียไป5ยูโร เจ็บใจมากก คือที่รีบออกมาเพราะกลัวมันจะทำอะไร ได้ไม่คุ้มเสีย แต่สุดท้ายเสียเงินให้มันไป ทำให้เราเซ็งตั้งแต่มาถึงปารีสเลยทีเดียววว

เรานั่งไปลงสถานี Trocadero ออกไปเจอหอไอเฟลเลยย คือมันเหมือนฝันน ทำให้เราลืมเรื่องโดนคนดำเอาเงินไปเลยย ปารีสเป็นเมืองในฝันของเราอยุ่แล้วเพราะเราดู Disney เรื่อง Anastesia แล้วมันมีฉากที่นี่เยอะ ชอบมากก คิดในใจว่ามาถึงแล้วโว้ยยย landmark ของปารีสสส ของจริงใหญ่มากก ไม่ว่าจะอยุ่ไหนในปารีสก็เห็นไอเฟล ถ่ายรูปกันให้หนำใจทุกมุม แต่ต้องคอยนะวังคนดำด้วยเพราะเค้าจะมายืนขายของที่ระลึกแถวๆนั้น เรานี่เข็ดเลยย เดินลอดใต้หอไปเฟลมา คนยืนรอคิวขึ้นเยอะมากกก เราเลยไม่ขึ้น เดินดูรอบๆก็พอใจละ โรแมนติกที่สุด เดินไปจะเจอคนยืนจูบกันเป็นคู่ๆ สุดๆอ่ะ จูบกันมี background เป็นหอไอเฟล คิดภาพตามดิ เดินตรงๆไปอีกด้านข้ามแม่น้ำไรน์จะเห็นอาคารใหญ่ๆตรงหน้า ที่มีสวนอยุ่ แต่ตอนนี้เค้ากั้นไม่ให้เข้าเพราะหน้าหนาวสนามแฉะ มีchristmas market และร้านขายของที่ระลึกรอบๆ เดินจนสุดแล้วเลี้ยวซ้ายจะเจออีกถนนที่มี cafe เยอะมาก เราเดินอย่างเดียวเลยเพราะจะได้ชมเมืองรอบๆด้วย เดินถึง hotel des invalides เป็นเหมือน palace แต่จริงๆไม่ใช่ ตอนนี้เปิดเป็น museum ให้ชมได้ มีโดมหลังคาทองใหญ่มาก ด้านหน้าเป็นสนามใหญ่ๆ เหมือนสนามหลวงบ้านเรา เพื่อนบอกว่าสนามหลวงก็เลียนแบบจากฝรั่งเศสเนี่ยแหละ5555 เดินข้ามสะพานที่มีหัวเสา 4 เสาเป็นทองคำ สะพานตกแต่งแบบหรูมาก คือที่นี่ทุกอย่างต้องดูอลังการงานสร้าง เน้นเว่อๆไว้ก่อน สวยจิงง เดินตรงมาเห็น Grand Palais อยุ่ข้างซ้าย คนต่อคิวเยอะอีกแล้ว รุ้สึกปารีสจะมีคิวยาวในทุกๆที่เลย เราไม่ได้เข้าอีกเช่นเคย5555 ตรงหน้ามีchristmas market ที่ใหญ่มากก แต่จะต้องเจอเพื่อนไทยเย็นนี้ เลยคิดว่าจะรอไปด้วยกัน เราลง metro แล้วนั่งไปดู Champs Elysees หรือชองเซลิเซ่ ประตูชัยฝรั่งเศสนั่นเอง ขึ้นจากmetro ก็เจอเลยทันที ดูยิ่งใหญ่อลังการมาก เป็นวงเวียนตรงกลาง เราขี้เกียจหาทางข้ามไปเพราะดูตรงนี้ก็สวยอยุ่แล้ว เลยถ่ายรูปรอบๆแล้วก็ไปเดินย่านถนน shopping center ของปารีสต่อ ข้างทางตกแต่งด้วยไฟเหมือนบนต้นคริสมาส ให้ความรุ้สึกว่าเดินในปารีสมากๆค่าา กลิ่นอายยุโรปที่นี่ใช่เลยยย




ใกล้ถึงเวลาที่จะได้เจอเพื่อนหลังจากไม่เจอเกือบครึ่งปีเพราะเค้าไปแลกเปลี่ยนที่สวีเดน ส่วนเราไปออสเตรีย เลยได้นัดเที่ยวกันช่วงนี้ที่เวลาตรงกัน นัดแถวม้าหมุนหน้าหอไอเฟล ในที่สุดก็เจอออ คิดถึงมากกก เพื่อนเรา2คน มากับเพื่อนเยอรมันอีกคนนึง เราไปเดินหาของกินกันที่เดิม กิน french fries ซึ่งไม่เห็นต่างจากที่อื่นเลย นึกว่ามากินที่นี่จะพิเศษกว่า5555 เสร็จแล้วก็ไปเดินเล่นแถว christmas market ด้วยกัน ตลอดข้างทางคนเต็มม ต้องระวังของตลอดด คือที่นี่ไม่ดีอย่างเพราะเราอยุ่อย่างไม่สบายใจ ต้องคอยระวังตัวตลอดเวลา อยุ่ไปนานๆเริ่มชินละ แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดอีก เมื่อเพื่อนเราไปซื้อ hot wine ที่ร้านนึงแล้วลืมวางกระเป๋าเงินทิ้งไว้ กว่าจะรุ้ตัวแล้วกลับไปเอาก็ไม่อยุ่แล้ว เจ้าของร้านบอก 99% หายแน่นอน โชคดีที่เพื่อนมันแยกพวกบัตรสำคัญๆไว้อีกกระเป๋า เลยโดนขโมยแต่เงิน ซึ่งก็เยอะอยุ่แต่ทำไรไม่ได้ ได้แต่ทำใจ รุ้สึกวันนี้ดวงไม่ค่อยดีเลย เดินกันจนหมดแรงก็กลับโรงแรม วันนี้เหนื่อยมากจริงๆ ขาแทบหลุดเพราะเดินเยอะมากกก ใช้ metro ไม่ค่อยคุ้มเลยย ได้ประสบการณ์ใหม่(ที่ไม่ค่อยดี)กลับมาด้วย แต่ชดเชยกับได้เห็นไอเฟลก็โอเคคค

 23.12.2014
Louvre museum

วันนี้นัดเจอเพื่อนกลุ่มเด็กแลกเปลี่ยนที่แยกกันนไปตอน Bruggeเพราะเค้าก็เที่ยวปารีสเหมือนกัน แยกเพราะเราต้องมากับเพื่อนไทย เดินหาร้าน breakfast นานมากก็ไม่เจอที่ถูกและดี สุดท้ายกลับมา starbuck555 กินครัวซองช็อกโกแลตไปชิ้นนึง อร่อยดีนะ นัดเจอเพื่อนทุกคนที่นี่แล้วเราก็ไป Lourve museum กัน ปรากฏว่าไปถึงมันปิดวันนี้พอดี-*- ปิดทุกวันอังคารร เซงงงง เลยได้แค่ถ้ายรูปข้างหน้า pyramidแก้ว ว่ามาถึงแล้วนะะ (แค่ไม่ได้เข้าาาTT) เพื่อยกลุ่มแลกเปลี่ยนเค้าจะไปแวร์ซายกัน แต่เราไม่ได้อยากไปเพราะมันไกลจากปารีสมาก เลยไป Nortre-dam แทน เป็นเหมือนโบสถ์ใหญ่ๆ ข้างในสวยมากและชมฟรี เค้ากะลังทำพิธีอะไรซักอย่างที่ต้องให้กินขนมปังกับไวน์องุ่น ข้างในสวยมาก ความจริงเค้าให้ขึ้นชมวิวบนยอดได้แต่คนต่อแถวยสวเว่อๆ สุดท้ายก็ถอดใจ ไม่ขึ้นก็ได้วะ แล้วเราก็เดินไปต่อกันที่Monmartre hill คืออ่านว่ามองมาท ฮิล เป็นที่เหมือนchurchใหญ่ๆอยุ่บนยอดเนิน มองขึ้นไปเป็นสีขาว เหมือนปราสาทอลาดินเลยย เราชอบที่นี่มากๆ แบบตอนเดินขึ้นให้บรรยากาศชิวๆเหมือนเดินเล่นในสวน เห็นมีนางแบบมาถ่ายแบบด้วย ผนังข้างในตกแต่งด้วยทองคำและรูปพระเยซู ใหญ่มากกก เดินดูข้างในจนพอใจแล้วก็ออกมาหาอาหารกลางวันกินกัน ทุกคนหิวมากๆ เราไปร้านอาหารนึงแค่ลงจากเนินก็เจอเลย สั่งพาสต้าแบบเพลนๆมาจานนึง คือได้แค่เส้นลวกกับชีสถ้วยนึง งงมาก คือสั่งอันนี้เพราะถูกสุด แต่ได้แค่นี้!?!? เพลนเกินไปละะ แต่กินไปกินมาก็อร่อยดี
Ladureee


 
เสร็จแล้วเราก็ไปเดินแถว shopping center กัน พลอยไปซื้อ Longchamp เรากับคนอื่นๆไปยืนเล่นไวไฟในร้านฟรี555 แล้วก็กะจะไปหาร้านcafe ดีๆจิบกาแฟ สุดท้ายแวะไป Ludaree ร้านมาการองชื่อดังต้นกำเนิดที่นี่ คนเยอะมากขนาดต้องเข้าคิวรอที่นั่ง(อีกแล้ว) แต่พอได้เข้าไปก็คุ้มค่าการรอ คือร้านข้างในสวยมาก ตกแต่งสไตล์เหมือนใต้ทะเล เราสั่งมาการองคนละ 2 ชิ้น ตั้ง 5 euro อร่อยดี ไม่หวานเว่อเกินไป กินเสร็จเหมือนทำภารกิจเสร็จไปอย่างนึง เพราะเราตั้งใจจะมากินขนมต้นกำเนิดที่นี่ทั้งมาการอง เอแคล์ เมอแรง และเครป

Monmatre hill


Lafayette
หลังจากนั้นก็ไปสถานี Gare du nord เพื่อไป collect ticket สำหรับการเดินทางไป Lyon พรุ่งนี้ ตอนแรกเรากะจะเลื่อนตั๋วไปตอนบ่ายจากตอนเช้า เพราะคืดว่าจะไปลูฟที่เค้าปิดวันนี้ แต่สุดท้ายก็ไม่เลื่อนเพราะอยากมีเวลาเที่ยว Lyon มากขึ้นถ้าถึงเร็ว สุดท้ายเพื่อนกลุ่มแลหเปลี่ยนที่แยกไปเค้าไปมาแล้วบอกว่าเราเข้าได้ฟรี!!!!!! เพราะมี residence permit ของออสเตรีย 1 ปี(เป็นเหมือนนักเรียนที่ยุโรป) คือแบบ-*-  เสียดายแปปปป ช่างมัน ทำไรไม่ได้แล้วววว สุดท้ายเราแวะไปกันที่ Lafayett เป็นหห้างหรูที่ใครๆก็ต้องมาเดินเพื่อความชิค แต่เห็นราคาแล้วหนูไม่สู้นะ แพงเว่อออ ดูแต่ตาเผ็น window shopping ละกัน เราว่าที่นี่ก็ไม่ได้เป็นห้างท่ดีอะไรขนาดนั้นนะ paragon ยังดีกว่าสำหรับเรา เดินแปปๆซึมซับบรรยากาศความแพงจนพอมจก็เดินออก5555

เราแวะซูปเปอร์ก่อนกลับที่พักเพื่อซื้ออาหารเย็นและเช้าวันต่อไป เพราะไม่มีเวลาหา กลับไปก็เหมือนปิกนิคในห้องเลย นั่งเม้า-ถมอยกับเพื่อนๆแล้วกินไปด้วย แฮปปี้่ดีจริงๆ นั่งแพลนถึงพรุ่งนี้กันจนง่วง เราก็กลับห้องนอน วันนี้รุ้สึกใช้ตั๋ว 1 day ticket unlimited คุ้มจริงๆ ใช้เวลาส่วนใหญ่อยุ่กับ metro จนโปร คือเราใช้ metro จนคล่องเลยที่เดียว

 

24.12.2014

วันนี้เป็นวันสุดท้ายในปารีสก่อนย้ายไปLyon เมืองทางด้านตะวันออกของฝรั่งเศส เราออกไปขึ้นรถไฟ 9 โมง ใช้เวลาประมาณ 5 ชม ถึงลียง นั่งในรถไฟเบื่อมากเพราะไม่มีไวไฟ  เลยนั่งเขียนบล็อกไปพลางๆ ไปถึง Lyon ก็เกือบบ่ายสามแล้ว หาโรงแรมอีก อยุ่ ibis budget เหมือนเดิมสำหรับงบนักศึกษาอย่างเราๆ ที่นี่เดินทางไม่ค่อยยาก ไม่ซับซ้อนเท่าปารีส แต่เนื่องจากเราผ่านปารีสมาได้แล้ว ที่นี่เลยไม่ยากสำหรับเรา เอาของเก็บที่โรงแรมแล้วก็กะจะไปหาไรอร่อยๆกินหลังจากที่ปารีสอดอยากกันมานานน กินแต่ของในซุปเปอร์เพราะมันแพง เริ่มต้นที่นั่ง metro ไปลง Bellacour โผล่ขึ้นไปเป็น center square มีรูปปั้นอยุ่ตรงกลางลาน ใหญ่มากกก แปลกใจว่าไม่มี christmas market ที่นี่เลย มันโล่งมากก มิงช้าสวรรค์ใหญ่มากอยุ่ใกล้ประตู metro ถ้าขึ้นไปจะมองเห็นวิวทั้งเมืองของ Lyon แต่ก็ไม่ได้ขึ้น มองจากตรงนั้นไปบนเนินเขา เห็นเหมือนปราสาทอยุ่บนยอด เหมือนปราสาทใน Disney เลยอ่ะ เราเดินเล่นแถวนั้นก่อนเพื่อรอเวลาร้านอาหารเปิด เป็นร้านที่ reception ในโรงแรมแนะนำมา วันนี้คือนข้างเงียบเพราะเป็น christmas eve ทุกคนฉลองในบ้านตัวเอง แปลกมากเพราะตอนแรกเราคิดว่าเค้าจะมีงานใหญ่ๆข้างนอกให้คนไปร่วม แต่ไม่มีเลยย แถวที่เราเดินเป็น shopping center มีวง chorus มาร้องเพลงchristmas ที่ทางเดิน ค่อยดูเหมือน christmas is coming ซะหน่อย การตกแต่งของที่นี่ก็ไม่ค่อยแตกต่างจากที่อื่นนัก แต่เราชอบเมืองนี้นะเพราะมันไม่วุ่นวายเหมือนปารีส คนดำก็แทบไม่มี ไม่ต้องอยุ่อย่างระวังตัวตลอดเวลา อยุ่แล้วสบายใจกว่ามาก เราไปกินครัวซองร้าน bakery ร้านนึง คือมันหิวจนไม่ทนแล้ว เลยรองท้องไปก่อน ครัวซองอร่อยสมกับที่ทำในฝรั่งเศส เราซื้อขนมเอแคล์และทาร์ตคาราเมลจากร้าน Paul ร้านขนมชื่อดังที่มีหลายสาขามาก เราก็เคยเห็นใน Brussel บอกเลยว่าอร่อยมากก ไม่หวานเกิน ในที่สุดก็ได้กินสมใจ





Paul
ถึงเวลามื้อเย็น เมื่อรอานที่เรารอเปิด ทุกคนคือหิวมากจริงๆ เราสั่งเนื้อ tataคล้ายๆเนื่อดิบสับกับมะกอก แพงมากกก 12.9 euro เป็นมื้อที่แพงที่สุดตั้งแต่เคยกินมาเลย เค้าให้สลัดกะมันฝรั่งทอดมาอีกอย่างละอ่าง กินด้วยกัน4คน อร่อยดี แต่อิ่มมากก


เสร็จแล้วเราไปเดินเล่นต่อแถว old townซึ่งเงียบมากและไม่มีคนเลยย น่ากลัวนิดๆ เดินตามซอยเล็กๆดูบรรยากาศ รุ้สึกเหมือนไป  cesky krumlov อีกครั้ง เมืองเก่าจริงๆ เราเดินผ่านร้านอาหารร้านนึงเลยแวะกินขากบทอด เป็นอาหาร traditional of Lyon ก็เลยอยากลองซะหน่อย สั่งขากบทอดกระเทียมอบเนย อร่อยมากก วันนี้กินแพงมากกก กินมื้อเย็น 2 รอบบบ*-* แต่ อร่อย พอใจมากกก โดนกันไป 29.90 euro ต่อจาน เราแชร์กันจานเดียว4คนจนพนักงานมองหน้า คิดว่าทำไมไม่สั่ง5 ก็ไม่สู้ราคาอ่ะนะ

ในที่สุดก็กลับโรงแรมซะที เหนื่อยมากก ถึงห้องก็หลับเลยทันที

 

 
 
 
 
25.12.2014
Merry christmas!!! วันนี้ร้านทุกร้านปิดหมดเพราะเป็นวันคริสต์มาส เราเลยกินแซนด์วิชที่ซื้อมาเมื่อวานจากซุปเปอร์แทน วันนี้ไป Fourviere เป็นปราสาทที่เห็นบนเนินเมื่อวาน ความจริงมันคือ church ข้างในสวยมากกก วันนี้มีพิธีทางคริสต์ คนมาเต็มเลย เราเข้าไปนั่งดูซักพักก็ออกมาถ่ายรูปเล่นด้านนอก มีจุดชมวิวที่สวยมากก มองเห็น Lyon ทั้งเมืองเลย หลังจากพักกินข้าวกลางวันแล้วก็เดินต่อไปดู Roman theatre เป็นครึ่งวงกลมมีที่นั่งเป็นขั้นๆ สำหรับเอาไว้ดูการแสดงสมัยโรมัน เสียดายที่มันปิดเพราะเป็นช่วงเทศการ เลยได้แต่ดูข้างนอก

Roman theatre

 
เราเดินเล่นไปอีกย่านหนึ่งของ Lyon เป็นตึกเยอะๆ แต่เหมือนย่านสลัมเลยอ่ะ ก็ได้เห็นอีกมุมหนึ่งของ lyon เดินเล่นซักพักก็เบื่อ ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวโซนนี้ เหมือนเรามาบุกเบิกเลยอ่ะ แต่ก็ดีที่ได้เห็นอะไรใหม่ๆด้วยตัวเอง ต่อมาเราดูแผนที่แล้วคิดว่าอยากไปทะเลสาบใน park ใช้รถบัสนั่งไปเกือบสุดสาย ลงหน้าพาร์คเลยจะมีประตูใหญ่ๆเหมือนประตูเข้าวัง ข้างในใหญ่มากก คนมาเดินเล่นเยอะช่วงเย็นๆ บรรยากาศสุดๆ เป็นอีกไฮไลท์ของที่นี่ที่เราชอบมาก เดินเล่นชิลๆกันริมทะเลสาบ เห็นคนให้อาหารเป็ด ห่าน หงส์ นก อากาศเย็นสบาย มีสวนย่อมๆในนั้นคล้ายๆสวนจีน เราเดินจนพอใจก็นั่งรถกลับเพื่อไปกินอาหารอินเดียที่เราจ้องไว้ตั้งแต่กลางวัน อยุ่ใกล้ๆ square ตรง Bellacour แต่ต้องเดินตรงข้ามสะพานก่อน ถึงร้านเราสั่ง naan เป็นแผ่นแป้งโฮลวีทอบ กินกับแกงกะหรี่ไก่ อร่อยมากก ขาดอาหารเอเชียมานาน ตอนเดินกลับนี่ก็มองหาซุปเปอร์มาเก็ตตลอดทาง จะได้ซื้อของตุนไว้เพราะ พรุ่งนี้ต้องไปสวิสเซอร์แลนด์ แล้วอาหารที่นุ่นแพงมาก เจอตรงทางกลับโรงแรมระหว่างรอรถtram ก็ซื้อจัดเต็มกันไป กลับถึงโรงแรมก็นอนเลย วันนี้รุ้สึกใช้ trasport คุ้มมาก ใช้จนคล่องอ่ะบอกเลย